เคล็ดลับเลือกยางรถมอเตอร์ไซค์

สำหรับผู้ที่ขับมอเตอร์ไซค์เป็นประจำนั้น นอกจากเรื่องของการทำประกันมอเตอร์ไซค์แล้ว การดูแลสภาพเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย เพราะรถมอเตอร์ไซค์ในบางรุ่นนั้นอาจถูกออกแบบมาให้เข้ากับการใช้งานที่หนัก และเครื่องยนต์มีความทนทานก็จริง แต่ถ้าไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เลยก็จะยิ่งทำให้เครื่องยนต์ยิ่งเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น และอาจเกิดปัญหาขัดข้องขึ้นได้ในอนาคต

ส่วนสำคัญที่หลายคนมักจะมองข้ามไปก็คือยางรถมอเตอร์ไซค์นั่นเอง แม้ว่าจะไม่ได้ทรงพลังเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ แต่ยางรถนั้นก็เป็นอีกตัวการสำคัญที่จะช่วยนำพาผู้ขับขี่ให้ไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพได้ เพราะฉะนั้น คุณจึงควรเลือกยางมอเตอร์ไซค์ที่ดีและเหมาะกับการใช้งานจริง ๆ จะต้องเลือกอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

แนะนำเคล็ดลับเกี่ยวกับยางรถมอเตอร์ไซค์

• เลือกจากขนาดของยาง

วิธีในการเลือกยางใหม่ การเลือกขนาดของยางนั้นควรเลือกใช้ขนาดเดิมที่ติดรถออกมาจากโรงงาน เนื่องจากได้ผ่านการทดสอบในทุกสภาวะการใช้งานมาแล้วว่าปลอดภัยในการใช้งาน และให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงนั่นก็คือ ความสามารถในการรับนํ้าหนักของยางและขีดจำกัดความเร็วสูงสุดของยางรุ่นนั้นๆ ซึ่งได้ถูกกำหนดมากับยางทุกเส้น เพื่อควบคุมการใช้งานให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

• เปลี่ยนยางหน้าและหลังพร้อมกัน

การเปลี่ยนยางรถ ควรเปลี่ยนยางหน้าและยางหลังพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นอาจมีปัญหาในเรื่องของเสถียรภาพในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากความแตกต่างของประสิทธิภาพและความสึกหรอของยาง ยางสำหรับล้อหน้าควรเป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นยางหน้าเท่านั้น สังเกตได้จากเครื่องหมาย “FRONT” เพื่อทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของยาง

• ดูแลความสะอาด

การดูแลยางรถมอเตอร์ไซค์ ควรมีการทำความสะอาดสิ่งสกปรกอยู่เป็นประจำ ทำการเช็กลมยางอยู่เป็นประจำในอยู่ในระดับที่โรงงานผู้ผลิตรถกำหนดมาหรือดูได้จากคู่มือรถ ไม่ควรจอดรถตากแดดเป็นเวลานานหรือถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เนื่องจากแสงแดดนั้นจะทำให้ผิวยางมีความกระด้างและทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ไม่ควรทำความสะอาดหน้ายาง/แก้มยางด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด/เคลือบเงาเพราะจะทำให้ผิวยางลื่น

เมื่อเช็กความเหมาะสมของยางเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเช็กประกันมอเตอร์ไซค์ และต่ออายุความคุ้มครองอยู่เสมอ เพื่อให้ความคุ้มครองจากประกันมอเตอร์ไซค์นั้นช่วยรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานยานพาหนะชนิดนี้นั่นเอง